Effective Communication & Collaboration with the Enneagram

นพลักษณ์ (Enneagram ) เป็นเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของพนักงานให้เพิ่มความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) ทำให้เกิดการสื่อสารและการร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นพลักษณ์ (Enneagram) ในการทำงาน

นพลักษณ์ (Enneagram) เป็นองค์ความรู้ภูมิปัญญาโบราณที่อธิบายบุคลิกภาพของมนุษย์อย่างเป็นระบบแบ่งออกเป็น 9 ประเภท โดยคนแต่ละประเภทมีรูปแบบการคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมที่แตกต่างกัน อันเกิดจากแรงผลักดันภายในที่เป็นพลวัตเฉพาะระหว่างความกลัวและแรงจูงใจ ซึ่งลักษณะทั้ง 9 นี้ปรากฎตามจุดและเชื่อมโยงกันตามเส้นบนรูปทรงเรขาคณิตที่เรียกว่าสัญลักษณ์เอนเนียแกรม

โดยทั่วไปแล้ว Enneagram ใช้เพื่อการค้นพบตนเอง การเติบโตส่วนบุคคล และการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ในปัจจุบันได้มีการนำความรู้เกี่ยวกับ Enneagram มาประยุกต์เพื่อพัฒนาบุคลากรในองค์กร เนื่องจากเป็นองค์ความรู้ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกว่าบุคคลนั้นรับรู้โลกอย่างไร ทำความเข้าใจชีวิตอย่างไร และเปิดโอกาสให้สมาชิกในทีมปรับปรุงการสื่อสารและการร่วมงานระหว่างกัน มีแนวทางรับมือกับความท้าทายต่างๆ สร้างคนคุณภาพที่มีความฉลาดทางอารมณ์ เพิ่มการตระหนักรู้ในตนเองและความเห็นอกเห็นใจกับคนอื่นมากขึ้น ดังนั้นการรู้จักข้อมูลเชิงลึกของสมาชิกทีมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของทีม การลดความขัดแย้ง และส่งเสริมการพัฒนาส่วนตัวให้เติบโตก้าวหน้า

ทำไมองค์กรจึงต้องทุ่มเทพัฒนาบุคลากรด้วย Enneagram

องค์กรในระดับชั้นนำต่างๆ เริ่มเนความสำคัญถึงผลกระทบของความเครียดที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานลดลงสุขภาพถดถอยทั้งทางร่างกาย/จิตใจ และการมีส่วนร่วมของพนักงานน้อยลง อาจส่งผลลบต่อการขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรในอนาคต

ดังนั้นการสร้างบรรยากาศการทำงานที่สนับสนุนให้มีสุขภาวะที่ดีจึงมีความสำคัญ ทำให้พนักงานสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานได้ รวมถึงมีความสุขในความสัมพันธ์ที่เข้าใจกันและกัน สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อพนักงานมีความเข้าใจตนเองและผู้อื่น โดยมีเครื่องมือ Enneagram เป็นแผนที่ในการมองคนที่นำไปสู่ประโยชน์ต่างๆ ดังนี้

  1. การสร้างทีม (Team Building) : การทำความเข้าใจคน 9 ลักษณ์ของสมาชิกในทีม ซึ่งแต่ละคนสามารถเห็นจุดแข็งของกันและกัน ทีมสามารถชื่นชมความหลากหลายในมุมมองต่างๆ ความตระหนักนี้สามารถนำไปสู่การสื่อสารที่ดีขึ้น การแก้ไขข้อขัดแย้ง และการทำงานร่วมกันในทีม
  2. การพัฒนาความเป็นผู้นำ (Leadership Development) : การเรียนรู้ข้อมูลเชิงลึกของผู้นำ 9 ลักษณ์เกี่ยวกับรูปแบบความเป็นผู้นำ จุดแข็ง และขอบเขตสำหรับการเติบโต ช่วยพัฒนาความเป็นผู้นำให้ตรงตามความต้องการและความท้าทายเฉพาะของพวกเขา ส่งผลให้เกิดความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ มีความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น เป็นผู้สื่อสาร ผู้ให้คำปรึกษา และผู้สร้างแรงจูงใจที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
  3. การแก้ไขความขัดแย้ง (Conflict Resolution) : Enneagram เป็นกรอบการทำงานเพื่อเข้าใจแรงจูงใจและความกลัวที่ซ่อนอยู่ซึ่งเป็นตัวผลักดันที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในการทำงานได้ เพราะคนมีความแตกต่างกัน หากพนักงานมีความเข้าใจในการจัดการความขัดแย้งด้วยวิธีแก้ปัญหาตามสไตล์ของคน 9 ลักษณ์ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ก็จะเป็นการแก้ไขข้อขัดแย้งที่สร้างสรรค์มากขึ้น และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดียิ่งขึ้น
  4. การพัฒนาตนเอง (Personal Development) : พนักงานสามารถช้ Enneagram เป็นเครื่องมือในการตระหนักรู้ในตนเองและการเติบโตส่วนบุคคล ด้วยการระลักษณ์ของตนเองและทำความเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน จุดบอดพวกเขาสามารถพัฒนากลยุทธ์ในการเอาชนะความท้าทาย ปรับปรุงการสื่อสาร และเพิ่มศักยภาพสูงสุดในการทำงานได้
  5. วัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture) : เมื่อพนักงานส่วนใหญ่มีความเข้าใจเกี่ยวกับ Enneagram ก็จะมีภาษาที่ใช้ทำความเข้าใจคน 9 ลักษณ์ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความเห็นอกเห็นใจและสนับสนุนกันและกันมากขึ้น เป็นวัฒนธรรมองค์กรของการไม่แบ่งแยก การทำงานร่วมกัน และเน้นการพัฒนาส่วนบุคคล สิ่งนี้นำไปสู่ความพึงพอใจ ผลผลิต และการรักษาพนักงานที่เพิ่มขึ้น
Enneagram พัฒนา Productivity ของคนให้เพิ่มขึ้นได้อย่างไร

การใช้เอ็นเนียแกรมในที่ทำงานมีประโยชน์อย่างมากต่อการส่งเสริมความเข้าใจ การสื่อสาร และการพัฒนาตนเองของพนักงานทุกระดับ

  1. ความเข้าใจแรงจูงใจ (Understanding Motivations) : Enneagram แต่ละประเภทมีแรงจูงใจและแรงผลักดันที่แตกต่างกัน ด้วยการทำความเข้าใจลักษณ์ของตนเอง แต่ละคนสามารถจัดการงานและเป้าหมายการทำงานของตนให้สอดคล้องกับแรงจูงใจตนเองได้มากที่สุด ตัวอย่างเช่น คนลักษณ์ 3 มักได้รับแรงจูงใจจากการพิชิตเป้าหมายได้และประสบความสำเร็จ ในขณะที่คนลักษณ์ 4 มักได้รับแรงจูงใจจากความเป็นปัจเจกบุคคลและการแสดงออกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน (unique)
  2. การระบุจุดแข็ง (Identifying Strengths:) : Enneagram เน้นย้ำถึงจุดแข็งและความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละประเภท บุคคลสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งเหล่านี้เพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุดในด้านที่พวกเขาเป็นเลิศ ตัวอย่างเช่น ประเภทที่หนึ่งมักเน้นรายละเอียดและจัดระเบียบ ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำและคุณภาพ
  3. การรับรู้ถึงความท้าทาย (Recognizing Challenges) : Enneagram แต่ละประเภทยังมีความท้าทายหรือจุดบอดเฉพาะที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อตระหนักถึงความท้าทายเหล่านี้ แต่ละบุคคลสามารถจัดการปัญหาเหล่านั้นในเชิงรุกเพื่อป้องกันอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นต่อประสิทธิภาพการทำงาน ตัวอย่างเช่น คนลักษณ์ 7 อาจต่อสู้กับการจดจ่อ (focus) และความต่อเนื่อง เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะแสวงหาความหลากหลายและความแปลกใหม่อยู่เสมอ
  4. การปรับปรุงการสื่อสาร (Improving Communication) : ผลผลิต (productivity) มักอาศัยการสื่อสารและการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจเพื่อนร่วมงานที่มี 9 ลัษณ์ สามารถช่วยให้มีการสื่อสารที่ดีขึ้นได้ง่าย โดยผู้ส่งสารคำนึงถึงรูปแบบการสื่อสาร ความชอบ และแรงจูงใจของคนลักษณ์นั้น สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ขั้นตอนการทำงานที่ราบรื่นยิ่งขึ้นและลดความเข้าใจผิด ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้นในที่สุด
  5. การพัฒนาตนเอง (Personal Development : Enneagram มีเส้นทางเฉพะสำหรับการพัฒนาคน 9 ลักษณ์ให้มีการเติบโต ด้วยการทำงานเกี่ยวกับการตระหนักรู้ในตนเอง เอาชนะนิสัยเดิมที่เป็นอุปสรรคต่อประสิทธิภาพการทำงานและปลูกฝังนิสัยใหม่ที่สนับสนุนเป้าหมายความก้าวหน้าทางอาชีพของตนเอง
ความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง Enneagram, MBIT & DISC

Enneagram, MBT! และ DISC เป็นองค์ความรู้ที่อธิบายบุคลิกภาพยอดนิยม แต่มีกรอบทางทฤษฎีและประเด็นมุ่งเน้นที่แตกต่างกัน

  1. Enneagram: มุ่งเน้นไปที่บุคลิกภาพ 9 ประเภทที่เชื่อมโยงถึงกัน ซึ่งแต่ละประเภทแสดงถึงรูปแบบความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป โดยเจาะลึกถึงแรงจูงใจ ความกลัว และความปรารถนาหลัก โดยนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเติบโตส่วนบุคคลและยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล
  2. MBTI: ตามทฤษฎีประเภทจิตวิทยาของคาล จุง MBTI (Myers-Briggs Type Indicator) แบ่งประเภทบุคคลออกเป็น 1 ใน 16 ประเภทบุคลิกภาพ ซึ่งพิจารณาจากความชอบใน 4 ขั้ว ได้แก่ การเป็นคนเปิดเผย (Extraversion) / เก็บตัว (Introversion) , การรู้ผ่านประสาทสัมผัส 5 (Sensing) / สัญชาตญาณ (Intuition), การคิด (thinking) /ความรู้สึก (feeling) และการตัดสิน (udging) / การรับรู้ (Perceiving) มักใช้เพื่อการตระหนักรู้ในตนเอง การพัฒนาอาชีพ และการสร้างทีม
  3. DISC: มุ่งเน้นไปที่รูปแบบพฤติกรรมหลัก 4 รูปแบบ ได้แก่ ผู้สั่งการ (Dominance) นักเจรจา (Influence) ผู้รักความสงบ (Steadiness) และนักวิเคราะห์ (Conscientiousness) โดยจะประเมินว่าแต่ละบุคคลเข้าถึงงาน มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และตอบสนองต่อความท้าทายอย่างไร โดยทั่วไปแล้ว DISC จะใช้การสังเกตพฤติกรรมแบบวงกว้าง
Enneagram Transformation in Sand-Tray (ETST) คืออะไร

ETST เป็นกระบวนการค้นหาตัวตนคน 9 ลักษณ์ในเชิงรูปธรรม 3 มิติผ่านตุ๊กตาและการเล่นบนถาดทราย ซึ่งกระบวนการนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยดร.พงษธร ตันติถิทธิศักดิ์ (อ.เอ๋) และ อ.อภิฤดี พานทอง(อ.กิ๊ก) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในการเรียนรู้เกี่ยวกับ enneagram

กระบวนการ ETST มีพื้นฐานอยู่บนทฤษฎีนพลักษณ์ (enneagram) มุ่งเน้นไปที่โลกภายในที่อยู่ภายใต้ภูเขาน้ำแข็ง (iceberg) แต่ละชั้นของบุคคล ได้แก่ พฤติกรรม ความกลัว แรงจูงใจ และความเชื่อเกี่ยวกับตัวตน ผู้เข้าอบรมจะได้รับการเชื้อเชิญให้สร้างภาพบนถาดทราย โดยใช้ตุ๊กตา (figurines) หรือ รูปปั้นขนาดต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้ สะท้อนถึงความเป็นตัวตน และสิ่งที่อยู่ภายใต้ภูเขาน้ำแข็งแต่ละชั้น

Enneagram Transformation in Sand-Tray (ETST)

การแสดงสัญลักษณ์ต่างๆ บนถาดทรายสามารถช่วยให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงพฤติกรรม ความคิด อารมณ์ และประสบการณ์ที่ซ่อนอยู่ในระดับไม่รู้ตัว โดยอ้างอิงกับองค์ความรู้เชิงลึกของศาสตร์นพลักษณ์ และมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านนพลักษณ์ใช้คำถามสำรวจเพื่อค้นหาลักษณ์ของตนเอง เมื่อผู้เข้าอบรมมีโอกาสทบทวนตนเองและได้รู้จักตนเองในส่วนที่เขาอาจไม่เคยรู้มาก่อน ทำให้เขาตระหนักถึงความเป็นไปได้และทางเลือกใหม่ๆ ที่ไปพ้นจากนิสัยเดิมที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตนเอง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและการตัดสินใจใหม่ด้วยตนเองให้เป็นเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นกว่าเดิม

Effective Communication and Collaboration with the Enneagram at Work

หากคุณต้องการพัฒนาตนเองให้ตรงจุดและพัฒนาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง รวมถึงอยากรู้จักตนเองอย่างลึกซึ้ง เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวก หรือ องค์กรต้องการพัฒนาทีมให้มีความแข็งแกร่งเป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสารและการร่วมงานที่สร้างสรรค์ หลักสูตs Effective Communication and Collaboration with the Enneagram at Work นี้อาจจะช่วยให้คุณ หรือ หน่วยงานมีความเข้าใจ ยอมรับความแตกต่าง ส่งเสริมจุดแข็งกัน และช่วยกันพัฒนาจุดอ่อนของทีมได้

หลักสูตรนี้มีรูปแบบการสอนทั้ง In-House และ Online (Enneagram: A Practical Path To Self Mastery)

หากต้องการรายละเอียดหลักสูตรฉบับเต็ม กรุณาติดต่อได้ที่: K.Supasana (Gluay)

[email protected]  |  Line@: plukrak

Benefits
  • ค้นพบเข้าใจตนเองในจุด แข็งและข้อจำกัดตามสไตล์ คน 9 ลักษณ์
  • มีเครื่องมือช่วยในการ สื่อสารและการทำงานร่วมกันของคนต่างลักษณ์
  • ได้ค้นพบอุปสรรคภายใน จิตใจ ที่ขัดขวางการพัฒนา ตนเอง
  • มีมุมมองที่เข้าใจความแตกต่างทางบุคลิกภาพของ เพื่อนร่วมงาน
Who Should Attend?
  • Non-Management
  • Employee
  • New Employee
Duration

2 Days (09:00-16:00)

Soft Skills
  • Self Awareness
  • Self Management
  • Self Performance
  • Social Awareness
  • Relationship Management
  • People’s Performance
Approach
กลับไป
LINE
Call
Messenger
Contact Form 2024

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
หรือติดต่อ คุณสุภษณา (กล้วย) โดยตรงที่ 093-9974791 เพื่อความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น